สำหรับเกมนี้ไทย เลือก “ซ้ายสั่งตาย” ศิริวัฒน์ สาขา ลงเสิร์ฟ โดยมี จิระศักดิ์ ผักบัวเงิน ลงมายืนคู่หน้ากับ ภัทรพงษ์ ยุพดี และ “ยาวปืนใหญ่” สิทธิพงษ์ คำจันทร์ ยืนแบ็ก และ พรชัย เค้าแก้ว และ ศิริวัฒน์ สาขา สาขาเป็นสำรองเปิดฉากมาเซตแรกทีมไทยเน้นใช้ลูกเสิร์ฟโจมตีมาเลเซีย แต่ฝั่งเสือเหลืองไม่ยอมง่ายๆ อย่างไรก็ตามสุดท้ายไทยปิดเซตเอาชนะไปได้ 21-18 นำก่อน 1-0 เซต“เจ้าสด” กล่าวต่อว่า บทบาทใหม่ของตัวเองในการช่วยทีมน้องๆ ทุกคน รู้สึกสนุก เราผูกพันกันมานาน อยู่กับทีมมานาน น้องๆ ให้ความเคารพรัก รักใคร่กัน สามัคคีกัน ตนรู้สึกสนุกกับหน้าที่ใหม่หลังจากแขวนนวมเลิกชกไป ในส่วนความหวังของทีมมวยสากลไทยในซีเกมส์ ครั้งที่ 31 นั้น สำหรับนักชกชาย แน่นอนว่าเจองานที่ยากเพราะต้องเจอนักมวยกระดูกแข็งๆ จากฟิลิปปินส์ แต่จากการฟิตซ้อมกันมาอย่างหนัก ตนยังเชื่อมั่นในน้องๆ ทุกคนว่า นักชกชายจะคว้าได้ 2 เหรียญทองให้ทัพนักกีฬาไทยได้แน่นอน ส่วนนักชกหญิงของไทยนั้น การเจอกับ “เจ้าภาพ” เวียดนาม เป็นงานยากเพราะเป็นกีฬาที่ต้องตัดสินด้วยสายตา แต่ตนเชื่อว่าในรุ่น 57 กก.หญิง “น้องเมษา” นิลาวัลย์ เตชะสืบ จะคว้าเหรียญทองได้ 100 % ส่วนอีกรุ่นที่แอบหวังไว้คือรุ่น 60 ก.หญิง “แต้ว” สุดาพร สีสอนดี ดีกรีเหรียญทองแดงโอลิมปิคเกมส์ 2020 ก็มีโอกาสเช่นกัน แต่ต้องวัดกับนักชกเจ้าถิ่นที่ดีกรีไม่ธรรมดาเช่นกัน
แต่แนวรับ และคุณภาพ โดมินิก คัลเวิร์ต-เลวิน รวมถึงบอลจาก เดมาไร เกรย์ ความสามัคคีของทั้งสนามทำให้คุณรู้สึกว่า มีบางอย่างกำลังมา ขอมอบเครดิตให้ทุกคนที่เป็นเอฟเวอร์โตเนียนในคืนนี้
“อินโดนีเซียเป็นทีมพลังหนุ่ม มีร่างกายที่แข็งแรง วิ่งไม่หยุดตลอด 90 นาที ฉะนั้นเป็นทีมที่อันตรายและต้องเตรียมตัวให้พร้อม หาแผนที่ดีที่จะไว้รับมือกับอินโดนีเซีย” มาโน่ กล่าวผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่ ชินแตยัง เฮดโค้ชของอินโดนีเซียได้เข้ามาชมเกมในสนามด้วยตัวเอง จะเป็นข้อเสียเปรียบของไทยหรือไม่นั้น มาโน่ กล่าวว่า เรามีทีมนักวิเคราะห์ที่ดีที่สุดในเอเชียอยู่และสามารถนำข้อมูลมาให้กับทีมได้เป็นอย่างดี ส่วนอินโดนีเซียที่มาดูในเกมนี้คงไม่ได้อะไรเท่าไหร่ เพราะไทยไม่ได้ส่งผู้เล่นที่ดีที่สุดลงสนามไปด้วยเริ่มต้นที่ท่าสแนช สาวไทย ทำลายสถิติท่าสแนช ยกได้ 93 กิโลกกรัม ทำลายสถิติซีเกมส์เดิม 91 กิโลกรัมขณะที่ ฮิดิลิน ยกได้ 92 กิโกลกรัม โดยการยกครั้งสุดท้าย เธอเรียกน้ำหนัก 94 กิโลกรัม หวังทุบสถิติของศานิกุณแต่ยกไม่ผ่าน ทำให้ต้องหยุดไว้ที่ 92 กก.
สำหรับ บริษัท โยเน็กซ์เทคนิคไฟเบอร์ จำกัด ปัจจุบันโรงงานกำลังเดินหน้าสายพานการผลิตลูกเทนนิส เพื่อใช้ในรายการต่างๆ ทั่วโลก ซึ่งโรงงานดังกล่าวจึงเป็นโรงงานผลิตที่ได้มาตรฐานระดับโลกและมีประสิทธิภาพสูง เพราะใช้เทคโนโลยีการผลิตลูกเทนนิสขั้นสูง“ดีใจมากๆ ที่มีส่วนช่วยในเกมหลายๆเกม แม้ว่าจะลงเป็นสำรองก็ตาม เพราะมันจะทำให้หนูมีประสบการณ์มากขึ้นเรื่อยๆ เป้าหมายต่อไปในอนาคตคือต้องเป็นตัวหลักของทีมและช่วยทีมให้ได้มากที่สุดค่ะ เกมวันนี้เอาชัยชนะได้แน่นอน แม้มันไม่ใช่เรื่องง่ายแต่คิดว่าเราทุกคนต้องทำได้แน่ๆทุกคนซ้อมมาอย่างหนัก จะสู้ให้สุดใจจะคิดว่าวันนี้เป็นวันสุดท้ายของชีวิตเลยค่ะ”