“ถ้าพูดถึงการตัดสิน เนื่องจากประธานกรรมการตัดสินเป็นชาวสิงคโปร์ เชค อารูดิน และลูกชาย เชค ฟาฮัน บิน เชค อารูดิน ก็มาลงแข่ง ทำให้มีการปรับเปลี่ยนกติกามีการเปลี่ยนกฏในวันแข่ง เกิดเหตุการณ์ที่ทำให้เห็นว่าเป็นการแข่งขันที่ไม่เป็นธรรม เราจะส่งจดหมายเกี่ยวกับทุกเรื่องที่เกิดขึ้นแนวทางที่ต้องแก้ไขไปที่สหพันธ์ปันจักสีลัตนานาชาติ รวมทั้งทุกชาติในอาเซียนบอกเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้กับทุกชาติ เราหวังว่าจะไม่มีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นกับวงการปันจักสีลัตซีเกมส์อีก”“สำหรับผลการชิงเหรียญทอง เจ้าของต้นตำรับปันจักสีลัตอย่างอินโดนีเซียไม่ได้เหรียญทองแม้แต่เหรียญเดียว มีแต่สิงคโปร์และเวียดนามได้เหรียญทองมากที่สุดในซีเกมส์ครั้งนี้”“บิ๊กก้อง” ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) เปิดเผยว่า ผลงานของทัพนักกีฬาไทยในช่วงโค้งสุดท้ายของการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 31 ที่ประเทศเวียดนาม เราก็ได้มีการประเมิน และติดตามผลงานกันตลอด ซึ่งจะเห็นได้ว่าแม้เหรียญของไทยจะไม่เยอะมาก เพราะเจ้าภาพแข็งแกร่งมาก และได้เหรียญเกินความคาดหมายด้วยซ้ำไป แต่อย่างน้อยนักกีฬาไทยได้แสดงให้เห็นว่า ชนิดกีฬาสากลพัฒนาดีขึ้นมาก และกีฬาเหรียญใหญ่ๆ เราทำผลงานได้ดีขึ้นมาก แต่หากลงลึกรายอีเวนต์ก็จะมีรายละเอียดต่างๆ ที่มีปัจจัยปัญหาอุปสรรคต่างๆ ทำให้นักกีฬาทำผลงานไม่ดีบ้าง
ส่วนเหรียญเงินเป็นของ นัวราช ซิงห์ ราดาห์วา จากมาเลเซีย สถิติ 2.18 เมตร และเหรียญทองแดง มี 3 คน ได้แก่ โมฮัมเหม็ด บิน ดาฮาลาน จากมาเลเซีย, ตะวัน แก้วดำ จากไทย และวู ดุค อันห์ จากเวียดนาม ทำสถิติได้ 2.18 เมตรเท่ากัน แต่กระโดดจำนวนครั้งมากกว่า
หลังจบการแข่งขัน ธนกฤต ยอดรักษ์ จอมเตะวัย 18 ปี เผยว่า ดีใจมากที่สามารถคว้าเหรียญทองได้สำเร็จ เนื่องจากครั้งนี้ถือเป็นซีเกมส์ครั้งแรกของตัวเอง ถือเป็นการปลดล็อกที่สมามารถทำได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ เพราะก่อนเข้าร่วมการแข่งขันเรียกได้ว่าซ้อมหลักมาก แทบรากเลือด วันละ 3 ครั้ง เช้า-กลางวัน- เย็น รอบละ 2-3 ชั่วโมงเมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม 2565 นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เข้าเยี่ยมชมศูนย์อำนวยการคณะนักกีฬาไทย (ไทยเฮาส์) ในการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 31 ซึ่งตั้งอยู่ที่โรงแรมแดวู กรุงฮานอย ประเทศเวียดนาม โดยมี ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) และนายประชุม บุญเทียม รองผู้ว่าการ ฝ่ายกีฬาเป็นเลิศและวิทยาศาสตร์การกีฬา รวมถึงเจ้าหน้าที่ กกท.ให้การต้อนรับ พร้อมสาธิตการดำเนินการช่วยฟื้นฟูสภาพความพร้อมของนักกีฬาไทยด้วยวิทยาศาสตร์การกีฬา กายภาพบำบัด โภชนาการ และจิตวิทยา
บิ๊กป๋อม อดิศักดิ์ เบ็ญจศิริวรรณ ประธานพัฒนาฟุตซอลเปิดเผยว่า สำหรับฟุตซอลไทยเราจะเริ่มฟุตซอลลีกวันที่ 2 ก.ค.65 จากนั้นจะเริ่มเตรียมทีมชาติต้นเดือนกันยายนเพื่อการเเข่งขันฟุตซอลเอเชียน คัพ โดยจะมีทัวร์นาเมนต์ คอนติเนนทัลฟุตซอล ขณะนี้ได้เชิญทีมโมร็อกโก หมู่โซโลมอน ฝรั่งเศส ไทย อิหร่าน ญี่ปุ่น (หรือเวียดนาม, อุซเบกิสถาน) รวม 6 ทีมเข้าร่วมการแข่งขัน ระหว่างวันที่ 11-18 ก.ย.65 จากนั้นจะลงเล่นฟุตซอลเอเชียนคัพ 24-15 ก.ย.65 ที่คูเวตส่วนทีมหญิงจะไปอุ่นเครื่องโมร็อกโก วันที่ 13-17 ก.ค.65 ให้ได้มีการเล่นอย่างต่อเนื่อง จากนั้นก็จะมีเกมวีเมนลีก ในเดือน ก.ย.-พ.ย.65 จบแล้วก็เตรียมทีมสำหรับ เอเชียนอินดอร์เกมส์ต่อเลย“เป็นแมตซ์ที่สำคัญมาก ยอมรับว่า อินโด เป็นทีมที่น่ากลัว มีผู้เล่นโอนสัญชาติมาด้วย และ ผู้เล่นแนวรุก มีความเร็ว แต่เรามาถึงตรงนี้ ก็ไม่มีอะไรต้องถอย เราต้องเล่นให้ดุดัน เล่นเพื่อประเทศไทย เพราะถ้าผ่านนัดนี้ ไปได้ เราจะไปเล่นนัดชิงชนะเลิศ ที่ฮานอย”