ท้ายเกมนาที 82 เรอัล มาดริด นำห่างเป็น 3-0 จากเตะมุมลูกสูตรที่ มาร์เซโล่ ได้เปิดโด่งเข้าเขตโทษ คาริม เบนเซม่า ขึ้นโขกส่งบอลเสียบเสาเข้าไปอย่างเด็ดขาด เป็นประตูที่ 2 ในเกมนี้ของ เบนเซม่า ด้วยอาการล่าสุดของ มาร์กซิยาล ยังไม่มีแนวโน้มด้านบวกเพราะยังคงพลาดซ้อมกับทีมในการเตรียมความพร้อมก่อนเกมสุดสัปดาห์ หลังเจอปัญหาบาดเจ็บเล่นงานอีกรอบในศึกผ่าเมืองแมนเชสเตอร์ที่ทัพ "ปีศาจแดง" พลิกชนะ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 2-1 เมื่อสัปดาห์ก่อน
แต่ ฮอลแลนด์ ก็เกือบได้ลูกสาม เมื่อ โคดี้ กัคโป พยายามหาเหลี่ยมยิงไปติดบล็อค ก่อนที่จะไหลมาให้ เดอปาย ตวัดยิงไกลด้วยขวาจะเสียบใต้คาน แต่ แม็ตต์ เทอร์เนอร์ ก็ยังปัดออกหลังไปได้
เกมครึ่งแรกทำท่าจะเสมอกันอยู่แล้ว แต่ช่วงทดเจ็บนาทีที่ 5 ลิเวอร์พูล ที่ได้ลุ้นจากลูกฟรีคิกทางกราบซ้ายโดน อาร์เซน่อล สกัดออกมาแล้วก็สวนกับ มาร์ติเนลลี่ ลากเลื้อยเข้าเขตโทษด้านซ้ายแล้วปาดไปหน้าประตูให้ บูคาโย่ ซาก้า ล้มตัวชาร์จบอลจ่อๆ เข้าประตูไปเลยโลส บลังโกส พยายามหาจังหวะทำประตูชัย ท้ายเกมนาที 88 เฟเดรีโก้ วัลเวร์เด้ ครอสจากทางขวาให้ คาริม เบนเซม่า ขึ้นโขกแต่บอลข้ามคาน
"มันไม่ใช่การเดินทางที่คุณมาเพื่อแลกกับเงิน แค่นั้นแล้วก็ถอยกลับไป มันเป็นกระบวนการสร้างที่ค่อยเป็นค่อยไป และผมคิดว่ามันน่าตื่นเต้นที่ได้เดินทางแบบนั้น การได้เห็นใบหน้าที่แตกต่างกันมากมายผ่านการสร้าง และคาแรคเตอร์ที่ยิ่งใหญ่"“พีพีทีวี” ยิงสด! ศึกมวยโลกไฟต์ยิ่งใหญ่แห่งปี